เรือหลวงสินสมุทร (HTMS Sinsamut) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำประจำกองท ชื่อเรือหลวงสินสมุทร เป็นชื่อพระราชทาน มา ณ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2480 มาจากชื่อตัวละครในวรรณคดีไ เรือหลวงสินสมุทรและเรือหลว เรือดำน้ำของไทยทั้งสี่ลำ เดินทางออกจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2481 ถึงกรุงเทพเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เข้าประจำการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ได้ออกปฏิบัติการในสงครามอิ เรือหลวงในชั้นมัจฉาณุทั้งห ภายหลังปลดประจำการ เรือทั้งสี่ลำได้นำมาจอดเที ข้อมูลจำเพาะ ระวางขับน้ำ : น้ำหนักบนผิวน้ำ 374.5 ตัน น้ำหนักขณะดำ 430 ตัน ขนาด : ความยาวตลอดลำ 51 เมตร ความกว้างสุด 4.1 เมตร สูงถึงหลังคาหอเรือ 11.65 เมตร กินน้ำลึก : กินน้ำลึก 3.6 เมตร อาวุธ : ปืนใหญ่ 76 มม. 1 กระบอก ปืน 8 มม. 1 กระบอก ตอร์ปิโด 45 ซม. 4 ท่อ เครื่องจักร : เครื่องจักรใหญ่ชนิดดีเซล 2 เครื่อง ๆ ละ 8 สูบ กำลัง 1,100 แรงม้า เครื่องไฟฟ้ากำลัง 540 แรงม้า (ใช้เดินใต้น้ำ) ความเร็ว : ความเร็วมัธยัสถ์ 10 นอต รัศมีทำการ : รัศมีทำการ 4,770 ไมล์ ทหารประจำเรือ 33 คน (นายทหาร 5 พันจ่า-จ่า 28) ข้อมูลจาก: http://th.wikipedia.org/ เป็นภาพในขณะที่ เรือหลวงสินสมุทร กำลังถูกปล่อยลงสู่น้ำในพิธ ภาพต้นฉบับที่ทางเพจของเราน |
HTMS Sinsamut
French cruiser La Motte-Picquet
เรือลาดตระเวนเบา ลามอตต์-ปิเกต์ (French cruiser La Motte-Picquet)
เป็นเรือลาดตระเวนเบาชั้นดูว์กวาย-ทรูแอ็ง ของกองทัพเรือฝรั่งเศส ที่ได้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พลเรือเอก เคานต์ตูแซ็ง-กีโยม ปีเกต์ เดอ ลา ม็อต์ต นายทหารเรือฝรั่งเศสในคริสต์วรรษที่ 18 และได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในปีค.ศ.1924 ประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือเมืองเเบรสต์ในประเทศฝรั่งเศส จนถึงปีค.ศ.1933 เรือลาม็อตต์-ปีเกต์ ได้จัดเป็นเรือธงในสังกัดหมวดเรือเบาที่ 3 ประจำการอยู่ที่เมืองเเบร็สต์ในประเทศฝรั่งเศสจนถึงปีค.ศ.1933 ต่อมาจึงได้ถูกส่งมาประจำการที่อินโดขีนฝรั่งเศสในปีค.ศ.1935 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้นในเเถบทวีปยุโรปขึ้นในปีค.ศ.1939 เรือลำนี้ก็ได้ใช้ออกลาดตระเวนตามชายฝั่งอินโดจีนฝรั่งเศส และเเละหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์ เมื่อภายหลังจากฝรั่งเศสยอมจำนนต่อฝ่ายเยอรมันเเล้ว ความขัดเเย้งตามเเนวชายเเดนไทย-ฝรั่งเศสก็ได้ทวีความรุนเเรงยิ่งขึ้นจนปะทุเป็นกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศสขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ.1940 เเละเมื่อถึงเดือนมกราคม ค.ศ.1941 เรือลาม็อตต์-ปีเกต์ จึงถูกจัดให้เป็นเรือธงของกองเรือเฉพาะกิจที่ 7 ซึ่งได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1940 ที่อ่าวคามเเรงห์ ที่เมืองไซ่ง่อน เรือดูว์มงดูร์วีล เรือมาร์น และเรือตาอูร์ ได้เข้าทำการรบในยุทธนาวีที่เกาะช้าง จนสามารถทำลายเรือรบของไทยได้ถึง 3 ลำ เเต่เรือลาม็อตต์-ปีเกต์ ก็ได้รับความเสียอย่างหนักด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นเรือลาม็อตต์-ปีเกต์ ได้เดินทางไปยังโอซาก้าเพื่อทำการซ่อมบำรุงเรือในเดือนกันยายน ของปีเดียวกัน เรือลาม็อตต์-ปีเกต์ก็ถูกจำกัดบทบาทลงและถูกปลดอาวุธเป็นเพียงเเค่เรือฝึก เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.1941 ซึ่งในเวลาต่อมาเรือจึงมาถูกจมโดยเครื่องบินจากกองเรือเฉพาะกิจที่ 38 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ.1945 ขอขอบคุณบทความจาก: http://th.wikipedia.org/wiki/เรือลาดตระเวนเบาลาม็อต-ปีเก เรือลาดตระเวนเบา ลามอตต์-ปิเกต์ เเห่งกองทัพเรือฝรั่งเศส ในช่วงของปีค.ศ.1932 |
German armoured train Panzer Zug BP 42
ขบวนรถไฟหุ้มเกราะ เเพนเซอร์ ซูก บีพี 42 เเห่งกองทัพบกเยอรมัน ขณะกำลังอยู่ในเเนวหน้าทางด Cr.: http://www.ww2incolor.com/ |
German battleship Tirpitz
USS Cuttlefish (SS-171)
เรือดำน้ำ ยูเอสเอส คัทเทิลฟิช (เอสเอส-171) เเห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ในระหว่างการฝึกซ้อมจากนิวล Cr.: http://www.navsource.org/ |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)