Japanese aircraft carrier Shinano 信濃 (空母)


เรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ (Japanese aircraft carrier Shinano)

ชินาโนะ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เคยเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในช่วงเวลานั้น โดยได้เริ่มวางกระดูกงูในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1940 ที่เป็นเรือลำที่ 3 ของเรือประจัญบานในชั้นยามาโตะ ขณะตัวเรือที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ไปเพียงบางส่วน ชินาโนะก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน สาเหตุอันเนื่องมาจากการสูญเสียเรือบรรทุกเครื่องบินถึง 4 ลำไปในยุทธนาวีที่มิดเวย์ในช่วงกลางๆปีค.ศ.1942

ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ.1944 ชินาโนะได้ทำการขึ้นระวางประจำการอย่างเป็นทางการที่ฐานทัพเรือโยโกสึกะ ซึ่งก่อนหน้านั้นมีเวลาเพียงสองสัปดาห์เพื่อเตรียมเรือประจำการและสำหรับการทดสอบเรือเพียงเล็กๆน้อยๆ โดยในวันที่ 1 ตุลาคม ลูกเรือได้รายงานต่อคณะกรรมการว่าลูกเรือถึงร้อยละ 70 - 75 ไม่มีประสบการณ์เดินเรือมาก่อน เเละจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นในความปลอดภัยของเรืออันเนื่องมาจากมีการบินผ่านของเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ดังนั้นกองทัพเรือญี่ปุ่นจึงมีคำสั่งให้ชินาโนะเดินทางไปยังฐานทัพเรือคุเระ เพื่อทำการเตรียมเรือประจำการในส่วนที่เหลือพร้อมกับเตรียมทำการบรรทุกจรวจพลีชีพเเบบ โยโกสึกะ เอ็มเอ็กซ์วาย7 เป็นจำนวน 50 เครื่อง โดยคำสั่งของกองทัพเรือต้องการให้ ชินาโนะ ออกเดินทางไปยังฐานทัพเรือคุเระในไม่เกินวันที่ 28 พฤศจิกายน แต่ผู้บังคับการเรือ นาวาเอก โทชิโอะ อาเบะ ได้ร้องขอให้เลื่อนวันออกเดินเรือออกไป เนื่องมาจากประตูผนึกกั้นน้ำส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจสอบสภาพอากาศยังไม่ได้รับการจัดการให้เรียบร้อย เเละยังมีรูจำนวนมากที่เว้นว่างไว้สำหรับการเดินสายไฟที่ยังไม่ได้รับการติดตั้ง ตามช่องอากาศและท่ออากาศก็ยังไม่ได้รับการปิดผนึก เเละยังไม่มีทั้งระบบท่อน้ำดับเพลิงและระบบระบายน้ำที่เสร็จสมบูรณ์ เช่น เครื่องสูบน้ำยังไม่ได้ถูกส่งมอบ และที่สำคัญเขายังต้องการเวลาเพื่อในการฝึกลูกเรือรุ่นใหม่ๆ

เเต่คำขอของกัปตัน โทชิโอะได้ถูกปฏิเสธ ชินาโนะจึงต้องออกเดินทางตามกำหนดการเมื่อเวลา 18:00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยมีเรือพิฆาต อิโซคาเซะ ยูกิคาเซะ และ ฮามาคาเซะ เป็นเรือคุ้มกัน

ท้ายที่สุด ณ วันที่ 29 พฤศจิกายนหรือเพียงเเค่ 10 วันหลังจากเรือเข้าประจำการ ในช่วงระหว่างการเดินทาง ชินาโนะก็ถูกโจมตีด้วยจรวจตอร์ปิโดจำนวน 4 ลูกจากเรือดำน้ำ ยูเอสเอส อาเชอร์ฟิช (เอสเอส-311) ของสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เรือจมลงพร้อมกับการสูญเสียชีวิตของลูกเรือมากถึง 1,435 ชีวิตที่รวมไปถึงกัปตัน เเละอีกกว่า 1,000 ชีวิตได้รับการช่วยเหลือ เเละการจมลงของ เรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ ยังนับว่าเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ถูกจมลงโดยเรือดำน้ำตราบจนถึงทุกวันนี้

ลักษณะเฉพาะ
ระวางขับน้ำ: 65,800 ตัน
ความยาว: 265.8 เมตร
ความกว้าง: 36.3 เมตร
กินน้ำลึก: 10.3 เมตร
เครื่องยนต์: 150,000 แรงม้า หม้อน้ำเเบบคัมปงระบบท่อน้ำ 12 หม้อ
ใบจักร: เเบบกังหันไอน้ำ 4 ใบจักร 4 เพลา
ความเร็ว: 27 นอต
ระยะทางเชื้อเพลิง: 10,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 18 นอต
อัตราเต็มที่: 2,400 นาย
ยุทโธปกรณ์:
18 × ปืนสองประสงค์ไทป์ 89 เเบบเเท่นคู่ขนาด 12.7 ซม.
35 × ปืนต่อสู้อากาศยานไทป์ 96 เเบบเเฝด3ขนาด 25 มม.
12 × จรวดต่อต้านอากาศยานเเบบ 28 ลำกล้อง ขนาด 12 ซม.
เกราะ:
กราบเรือ: 160–400 มม.
ดาดฟ้า: 75 มม.
อากาศยาน: 47 เครื่อง

ขอขอบคุณบทความจาก : http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_aircraft_carrier_Shinano

เป็นภาพของเรือบรรทุกเครื่องบินชินาโนะ ขณะทำการเเล่นทดสอบที่บริเวณอ่าวโตเกียว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1944

ภาพขาวดำต้นฉบับที่ทางเพจนำมาลงสีจาก : http://livedoor.blogimg.jp/coolong/imgs/c/e/ce21398b.jpg

1 ความคิดเห็น: